แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร เป็นผู้จัดการแผนกฯ จัดค่ายพระคัมภีร์ ปีที่ 4 ครั้งที่ 3ในปีนี้ หัวข้อพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม2017 ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน มีเด็กนักเรียนชั้น ป.3-ป.6 จำนวน 98 คน และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 คน คุณครูและทีมงาน 22 คน รวมทั้งหมด 122คน (ดูรายชื่อได้ที่นี่)
กิจกรรมต่างๆ ในค่ายพระคัมภีร์ มีดังนี้
ในวันแรก 6 ตุลาคม 2017 เริ่มด้วยการวจนพิธีกรรมเปิดค่ายฯ และแบ่งกลุ่มศึกษาออกเป็น 7 กลุ่ม และมีคุณครูพี่เลี้ยงกลุ่มละ 2-3 คน มีการแนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระคัมภีร์ วิธีเปิดพระคัมภีร์ หนังสือในพระคัมภีร์ ความรู้เบื้องต้นและสำรวจโครงสร้างของพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว ต่อจากนั้นก็ศึกษาฯ ในภาค 1- 3 และในตอนเย็นมีการสวดสายประคำและพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยคุณพ่อสมภพ คณะกาปูชินเป็นประธาน และในภาคค่ำมีกิจกรรมฉายวีดีทัศน์และ ตอบคำถามพระคัมภีร์
ในวันที่สอง 7 ตุลาคม 2017 ภาวนาด้วยบทภาวนาของนักบุญฟรังซิส ภาวนาเพื่อสันติภาพและสันติสุขในประเทศไทย และทั่วโลก ต่อจากนั้นศึกษากลุ่มย่อยพระวรสารฯ ภาค 4 ในบางหัวข้อ เช่น เรื่องคำเทศน์สอนเป็นอุปมา 7 เรื่อง และจบด้วยการทำลูกเต๋าอุปมา 2 แบบซึ่งบรรจุด้วยหัวข้อและภาพอุปมาและให้นักเรียนนำกลับไปเป็นกิจกรรมที่บ้านเพื่อการอ่านคำอุปมาเรื่องต่างๆด้วย ต่อจากนั้นมีการเล่าเรื่องพระคัมภีร์ประกอบภาพนิ่ง ในภาคที่ 6 และกิจกรรมพระคัมภีร์พระมหาทรมานและการกลับคืนพระชนมชีพ โดยการระบายสีภาพมรรคาศักดิ์สิทธิ์และประดิษฐ์เป็นรูปไม้กางเขนและศึกษาพระวาจาของพระเจ้าในภาคที่ 7 และมีการซ้อมการแสดงละครพระคัมภีร์ ในภาคที่ 5 ในตอนเย็นมีการสวดสายประคำและร่วมพิธีบูชาขอบคุณ โดยคุณพ่อวรวุฒิสังขรัตน์ คณะกาปูชิน และมีการแสดงละครพระคัมภีร์และสรุปข้อคิดที่ได้รับ และสรุปการร่วมกิจกรรมตลอดเวลาสองวันและประกาศผลการ่วมกิจกรรมฯ และมอบรางวัลให้กับทุกกลุ่ม และฉลองร่วมกันด้วยการรับประทานอาหารว่าง นิดหน่อยและพักผ่อน
ในวันที่สาม 8 ตุลาคม 2017 วันปิดค่ายฯ ภาวนาเช้าด้วยบทเพลง Blossom dance พร้อมกับการไตร่ตรอง พระวาจา มัทธิว 13:31-32 "พระองค์ตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับเมล็ดมัสตาร์ดซึ่งมีผู้นำไปหว่านในนาและเป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล็ดทั้งหลาย แต่เมื่อเมล็ดงอกขึ้นเป็นต้นแล้ว กลับมีขนาดโตกว่าต้นผักอื่นๆ และกลายเป็นต้นไม้ จนกระทั่งนกในอากาศมาทำรังอาศัยบนกิ่งได้” และต่อด้วยกิจกรรม การปลูกพระอาณาจักร โดยใช้สัญลักษณ์เมล็ดมัสตาร์ด และปลูกใส่ถ้วยเล็กๆ และนำกลับไปรดน้ำ ดูแลให้เจริญเติบโตต่อไป ต่อจากนั้นให้เขียนข้อตั้งใจหลังจากจบค่าย พระคัมภีร์แล้ว เพื่อนำไปปฏิบัติในชีวิตต่อไป
และจบด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์ และมอบวุฒิบัตร โดยคุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายบุคลาภิบาลและอธิการบ้านผู้หว่าน สามพราน ขอขอบคุณพระสงฆ์ นักบวช ผู้บริหารโรงเรียน คุณครู ผู้ปกครอง และอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่สนับสนุนโครงการค่ายพระคัมภีร์ ซึ่งทางแผนกฯ จัดมาเป็นปีที่ 4 แล้ว และขอขอบคุณผู้ร่วมงานที่มาช่วยเป็นทีมค่ายพระคัมภีร์ คุณสมบัติ งามวงศ์ จากแผนกคริสตศาสนธรรมกรุงเทพฯ คุณจันทรา จิระวัฒนกิจ จากแผนกเยาวชนกรุงเทพฯ คุณครูกมลา สุริยพงศ์ประไพ จากโรงเรียนนักบุญเปโตร คุณครูเอกพันธ์ พิทักษ์วงษ์ จากโรงเรียนแม่พระประจักษ์ สุพรรณฯ และคุณครูทุกท่านจากโรงเรียนที่นำเด็กๆมาร่วมค่ายฯ ในครั้งนี้ด้วย ขอพระเจ้าอวยพร
